ล้างแอร์อยุธยา โดยทีมช่างนาราแอร์

ติดตั้งการทดสอบการรั่วไหลของพื้นดินด้วยเครื่องปรับอากาศ โดยการติดตั้งสายดิน และทดสอบไฟรั่ว

หากวงจรป้องกันของเครื่องปรับอากาศ มีการทำงานที่ผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานและเรียกช่างแอร์มาตรวจสอบ

ติดตั้งเบรกเกอร์ หรือสวิทช์อัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัย

ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ ให้สับคัทเอาท์ออกทันทีก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ และรอคเวลาประมาณ 3-5 นาทีก่อนที่จะสับคัทเอาท์ขึ้นและเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศอีกครั้ง

ตรวจสอบขั้ว และสายเคเบิลไปยังจุดต่าง ๆ ของแอร์อย่างสม่ำเสมอ

ดูคู่มือต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องปรับอากาศก่อนการใช้งาน

โรคทางเดินหายใจ

ในโพรงจมูกของคนเรามีเส้นเลือดแดงขนาดเล็ก และผนังบางจำนวนมาก แต่ในสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะในห้องแอร์หากมีอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส เซลล์ต่าง ๆ อย่างเซลล์เยื่อบุโพรงจมูก คอ หลอดลม ฯลฯ จะแห้งลงกว่าเดิมทำให้ไม่มีเมือกมาป้องกันเซลล์จากเชื้อโรค เชื้อโรคจึงสัมผัสกับเซลล์ได้โดยตรง ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ก่อให้เกิดโรคหวัด คัดจมูก แสบจมูก หรือเกิดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งนำไปสู่โรคทางเดินหายใจได้

โรคลีเจียนแนร์

โรคคลีเจียนแนร์ หรือโรคติดเชื้อแบคทีเรียเฉียบพลัน เชื้อแบคทีเรียที่พบในเครื่องปรับอากาศ ซึ่งโรคนี้จะทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ โดยอาการจะรุนแรงขึ้นภายในหนึ่งวัน ผู้ป่วยอาจมีไข้สูงถึง 39 องศาเซลเซียส มีอาการไอแห้ง ปวดท้อง หรือบางรายมีอาจอาการท้องร่วงร่วมด้วย โดยแบคทีเรียลีเจียนแนร์นี้ มักจะแฝงตัวมากับอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ ยิ่งในห้องที่มีความอับชื้นสูงอย่างห้องปรับอากาศ โดยเฉพาะแอร์ที่ไม่ได้ถูกทำความสะอาดอย่างเหมาะสม 

โรคไข้ปอนเตียก

โรคไข้ปอนเตียกไม่ใช่โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายแสดงปฏิกิริยาต่อแอนติเจนที่สูดหายใจเข้าไป ซึ่งแม้จะไม่ก่อให้เกิดอาการปอดบวม แต่หากปล่อยให้อากาศปนเชื้อโรคจากแอร์เข้ามาทำให้ป่วย ก็จะทำให้ตัวเราไม่สบายตัวไปประมาณ 2-5 วัน แต่หลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ หายไปเอง

โรคภูมิแพ้

ในเครื่องปรับอากาศมีเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสอยู่มาก แอร์เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ต้องมีการดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หากขาดการดูแลที่ดี ก็จะเป็นที่รวบรวมเอาฝุ่นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้มารวมกันไว้ได้ เป็นเหตุให้การอยู่ในห้องแอร์ที่ไม่ได้ทำความสะอาดอย่างเหมาะสมอาจก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

โรคตึกเป็นพิษ

หนึ่งในกลุ่มของออฟฟิศซินโดรมที่มีอาการวิงเวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ ตาลาย เพียงเพราะบรรยากาศภายในตึกทำงาน โรคตึกเป็นพิษ หรือ Sick Building Syndrome (SBS) เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการอ่อนล้า ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เกิดผดผื่นคัน ระคายเคืองดวงตา และมีความผิดปกติของประสาทรับกลิ่น โดยสาเหตุของโรคตึกเป็นพิษมักเกิดจากอากาศเย็น ๆ ที่ออกมาจากเครื่องปรับอากาศในอาคารที่มี เช่น สารระเหยจากสีทาผนัง เครื่องซีร็อกซ์ พรินเตอร์ ไม้อัด สารเคลือบเงาทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งไรฝุ่นในพรมรวมอยู่ด้วย

ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ

หากเปิดแอร์แล้วรู้สึกได้ถึงกลิ่นอับ ๆ นั่นแปลได้ว่าเครื่องปรับอากาศของคุณมีเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียอยู่มากจนแสดงออกมาด้วยกลิ่น ซึ่งนอกจากจะเสี่ยงโรคทางเดินหายใจแล้ว อากาศเย็น ๆ ที่ปนเชื้อโรคจากแอร์ออกมานั้นเมื่อโดนเข้ากับผิวของเรา อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคผิวหนังอักเสบ และผื่นคันได้ด้วย

ภาวะติดเชื้อ

ร่างกายของคนที่อยู่ในห้องแอร์ ยิ่งกับคนที่อยู่ในห้องแอร์นาน ๆ ก็เสี่ยงจะติดเชื้อโรคที่ไหลเวียนอยู่ทั้งในห้องและเครื่องปรับอากาศได้มาก และยังมีแนวโน้มที่จะเกิดการติดเชื้อได้มากกว่าคนที่อยู่กลางแจ้ง โดยเฉพาะผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือไม่ได้ค่อยได้ออกกำลังกาย

จริง ๆ แล้วอากาศภายในห้องแอร์อาจเป็นมลพิษมากกว่าอากาศภายนอกหลายเท่าตัว เนื่องจากเครื่องปรับอากาศจะหมุนเวียนอากาศภายในห้องมาเป็นลมเย็น ๆ ซึ่งเท่ากับว่าในห้องแอร์นั้น ๆ ไม่ได้มีอากาศถ่ายเทจากที่ไหนเลย

ผิวแห้ง

ลมที่ปะทะผิวโดยตรงนั้นจะทำให้ผิวแห้งตึง และขาดน้ำได้ง่าย ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ได้ การอยู่ในห้องปรับอากาศจะทำให้เราสูญเสียน้ำในร่างกายมากขึ้น เนื่องจากความเย็นจะทำให้อากาศแห้ง ดังนั้นหากอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ โอกาสที่ผิวจะแห้งกร้าน และก่อให้เกิดอาการคันก็จะมากขึ้นไปด้วย ซึ่งหากมีอาการคันจากการที่ผิวแห้งตึง และเกาจนผิวมีรอยถลอก อาจทำให้ติดเชื้อทางผิวหนังได้ง่ายขึ้น

โรคอ้วน

อากาศเย็น ๆ ที่มาจากแอร์ทำให้ตัวเรารู้สึกขี้เกียจ ขาดการทำกิจกรรมที่ช่วยเผาผลาญพลังงานอย่าง การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย ซึ่งนำไปสู้โรคอ้วนได้ การอยู่ในสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศคอยควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในองศาพอเหมาะ ร่างกายก็ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้เรา ลดโอกาสในการเบิร์น หรือได้ดื่มน้ำเยอะขึ้นแทนที่จะกินจุบจิบ อีกทั้งส่วนมากอากาศสบาย ๆ ยังจะคอยยุยงให้เราเพลิดเพลินกับการกินได้มากขึ้น ในขณะที่ร่างกายก็จะรู้สึกขี้เกียจมากขึ้นไปด้วย และปัจจัยเหล่านี้นี่อาจทำให้เราน้ำหนักขึ้นแบบไม่รู้ตัวได้

BTU ของแอร์ไม่เหมาะกับห้อง

ขนาด BTU และขนาดของห้องที่ไม่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่นการติดตั้งแอร์ขนาดเล็กในห้องที่มีขนาดใหญ่ จะส่งผลให้แอร์ทำงานหนัก เย็นช้า และส่งลมเย็นได้ไม่ทั่วถึง เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้วยังช่วยประหยัดค่าไฟด้วย

แอร์ไม่เย็น เพราะไม่ได้ล้างแอร์

แม้จะล้างแผ่นกรองเป็นประจำ แต่หากไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานาน เชื้อโรค ละออง ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ จะสะสมและอุดตันอยู่ภายในไส้กรองอากาศ และคอมเพรสเซอร์แอร์ ทำให้ตัวเครื่องระบายความร้อนได้ไม่ดีและนอกจากแอร์จะไม่เย็นแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพและทางเดินหายใจด้วย แนะนำว่าแอร์ทุกเครื่องในบ้านควรล้างแอร์ทุก ๆ 4 – 6 เดือน เพื่อให้แอร์สามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

น้ำยาแอร์ไม่เพียงพอ

น้ำยาแอร์หมด รั่วซึม หรือน้ำยาแอร์ไม่ได้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น ส่วนมากแล้วจะเกิดกับแอร์รุ่นเก่า ๆ ใช้มานานแล้ว การที่น้ำยาแอร์มีผลต่อการทำความเย็นนั่นก็เพราะว่า น้ำยาแอร์เป็นสารช่วยทำความเย็นให้กับแอร์ และจะเข้าไปช่วยหล่อเลี้ยงภายในตัวเครื่องทำให้เกิดความเย็น

ตั้งค่ารีโมทแอร์ผิด

จริง ๆ แล้วต้นเหตุอาจจะอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ นั่นคือรีโมทในมือเรานั่นเอง เป็นไปได้ว่าที่แอร์ไม่เย็นอาจเกิดจากการตั้งค่าโหมดผิด ไปตั้งค่าเป็นโหมดพัดลม (FAN) ซึ่งโหมดนี้จะเป็นการหมุนเวียนของลมจากภายนอกให้เข้ามาภายในห้อง ซึ่งจะเป็นอุณหภูมิปกติที่ไม่ได้เกิดการทำความเย็น ความเย็นที่ได้จึงเหมือนกับแค่เปิดพัดลมเลย

คอมเพลสเซอร์แอร์มีปัญหา

ลองมาหลายวิธีแล้วแต่แอร์ก็ยังไม่เย็นอยู่ดี ปัญหาอาจจะอยู่ที่คอมเพรสเซอร์แอร์ในกรณีที่เกิดไฟตก แล้วแอร์เรายังทำงานอยู่ จึงทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แอร์จึงไม่มีความเย็นออกมา

ประตูหน้าต่างปิดไม่สนิท

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็นนั่นคือภายในห้องมีช่องโหว่ที่ทำให้ลมแอร์ลอดผ่านออกไปได้ เช่น ปิดประตูหรือหน้าต่างไม่สนิท หรือช่องว่างของประตูห้องที่อยู่เหนือระดับพื้นห้องมากเกินไป รอยต่อ รอยแตกของผนังห้อง เป็นต้น ลองตรวจสอบบริเวณรอบห้องของคุณเพื่อแก้ไขซ่อมแซมปิดช่องโหว่เหล่านี้ให้เรียบร้อย แอร์ก็จะกลับมาเย็นตามปกติ

Auto Mode 

โหมดนี้สำหรับท่านที่ไม่ต้องการยุ่งยากในการปรับอะไรมาก เพราะมันจะปรับอุณหภูมิและความเร็วของพัดลมโดยอัตโนมัติ และโหมด Auto นี้ มันจะสลับการทำงานไปโหมดอื่นๆ เช่น Dry หรือ Cool ให้ตามสภาพแวดล้อมในห้องเรา เหมาะสำหรับ : บ้านที่ไม่ค่อยมีใครไปยุ่งกับแอร์มากนัก กดปุ่มเปิด/ปิด อย่างเดียว ที่เหลือให้แอร์มันคิดให้ เย็นเหมือนกัน

Cool Mode

โหมดนี้จะตั้งค่าได้ทั้งอุณภูมิและความเร็วของพัดลม เมื่อแอร์ทำให้ห้องมีอุณหภูมิถึงจุดที่เราตั้งไว้แล้ว แอร์จะหยุดทำงานครู่หนึ่ง (หรือที่เราเรียกกันว่าแอร์ตัด) เหมาะสำหรับ : ช่วงที่อากาศร้อน หรือตอนที่เราอยากให้ห้องมีอุณภูมิเย็นมากหรือน้อยตามใจเรา

Dry Mode 

โหมดนี้ทำงานคล้ายกับโหมด Cool แต่จะเพิ่มการลดความชื้นในอากาศ แต่ความเย็นจะลดลงถ้าเทียบกับโหมด Cool ในอุณหภูมิที่เท่ากัน เพราะความชื้นในอากาศนั้นหายไป เหมาะสำหรับ : ห้องที่ต้องการควบคุมความชื้น มีสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสำหรับอากาศชื้น

Fan Mode

โหมดนี้จะทำงานเพียงแค่พัดลม ซึ่งเป็นลมในอุณหภูมิห้องปกติ ไม่ใช่ลมเย็น เราสามารถตั้งค่าได้เฉพาะความเร็วของพัดลมเท่านั้น เหมาะสำหรับ : ห้องที่ต้องการอากาศหมุนเวียน แต่ไม่ต้องการให้ห้องมีความเย็น หรือเมื่อแอร์มีปัญหากลิ่นอับ โหมดนี้จะช่วยลดความชื้นสะสม และลดกลิ่นอับได้ระดับหนึ่ง